ผมคิดว่า Dakar racy คือ Rally ที่โหดที่สุดในโลก และผมไม่เคยรู้เลยว่ามีที่โหดกว่านี้อีก…

ตั้งแต่ 1911 เกือบ 250 คน เสียชีวิตในการแข่งนี้

Isle of man เป็นชื่อเกาะเล็กๆ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของ Queen Elizabeth ขนาดของเกาะอยู่ที่ 572 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้เป็นภาพชัดขึ้น ก็คือขนาดของเกาะพอๆกับเกาะภูเก็ตของประเทศไทย การแข่งขันแบ่งเป็นหลายรุ่นแต่หัวใจสำคัญของการแข่งคือการปิดถนนแข่งโดยไม่สนใจสิ่งกีดขวาง บ้านเรือน เสาไฟฟ้า

โดยปกติแล้วสนามแข่งรถต่าง ๆ จะมีการทำให้แน่ใจว่า เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มอเตอร์ไซค์ล้ม หรือรถชนกันในสนามแข่ง จะมีพื้นที่ด้านข้างของถนนอยู่มากพอสมควรเพื่อให้นักแข่งมอเตอร์ไซค์ สามารถมีพื้นที่ให้ไหลไปโดยไม่กระแทกเข้ากับอะไรหรือรถยนต์ก็เหมือนกัน คือรถจะมีพื้นที่ให้ไหลไปโดยไม่ไปชนเสาไฟฟ้า หลักกิโลเมตร หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ที่มีอยู่บนถนนปกติ และการที่การแข่งขัน Isle of man ไม่สนใจเรื่องสิ่งกีดขวางใด ๆ เมื่อผนวกกับเป็นการแข่งขันโดยการใช้ความเร็วสูง พื้นถนนที่ไม่เรียบเหมือนสนามแข่ง เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนมาก ซึ่งทั้งผู้แข่งและคนดูก็รู้สิ่งนี้ดี แต่เขาก็ยืนยันที่จะคงไว้อย่างนี้ คงจะต้องการให้เป็นเสน่ห์หรืออย่างหนึ่งของการแข่งขันนี้ และในที่สุดมันก็เป็นเสน่ห์ของการแข่งขันนี้จริง ๆ

ความเสี่ยงระดับนี้ที่ใครๆ ก็สามารถจะคำนวณได้ และเป็นที่รับทราบกันถึงความเสี่ยงหากเป็นคนปกติ ก็คงจะไม่เข้าแข่ง แต่ในโลกมีคนผิดปกติอยู่ หลักความคิดของคนเหล่านี้คืออะไรกัน? เป็นความตายอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้ตายในหน้าที่ในการแข่งขันที่โหดร้ายที่สุดบนโลกใบนี้? อย่างนั้นหรือ?

บางคนให้สัมภาษณ์ว่า ฉันไม่เคยชอบอะไรอย่างอื่นเลย นอกจากมอเตอร์ไซค์ บางคนให้สัมภาษณ์ว่า ฉันไม่มีความต้องการจะใช้ชีวิตอย่างธรรมดาเช่นคนทั่ว ๆ ไปเขาใช้กัน มันน่าเบื่อเกินไป และบางคนแจ้งที่บ้านอย่างชัดเจนว่า ฉันอาจจะไม่ได้กลับมา

ขณะที่ Paris Dakar เป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ในสภาพสุดกันดาร เป็นที่เข้าใจได้ง่ายกว่า การแข่งขันข้ามทะเลทราย มีการหลงทางเกิดขึ้น มีบางคนที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นหลายวันจึงจะหาเจอ เป็นการแข่งขันที่โหดเหี้ยมโดยสภาพถนน โดยสภาพอากาศ และเป็นการแข่งขันอย่างต่อเนื่องเกือบเดือน มากกว่า 500 กม. บนถนนสุดโหดทุกวัน ความอ่อนล้า ความเหนื่อย ความแห้งแล้ง ความร้อนในตอนกลางวัน ฝน ความเย็นในตอนกลางคืน ความเร็ว ทั้งหมดเป็นส่วนผสมที่ออกมาแล้วเป็นที่เข้าใจได้ว่าความเสี่ยงจำนวนมหาศาลมีอยู่แน่นอน

ขณะที่ Isle of man แข่งกันมาตั้งแต่ 1907 สนามมีการทดสอบวิ่งก่อน และเป็นมาอย่างนี้อยู่หลายปี คำนวณได้ว่าโค้งเป็นอย่างไร เป็นอยู่ตรงไหน แม้กระทั่งมีข้อมูลจุดเสี่ยง (อันที่จริงตำแหน่งจอดรถพยาบาล ก็คำนวณจากจุดเสี่ยง) ให้อีกด้วย ต่างจาก Paris Dakar เพียงแต่ทรายนุ่มที่มองไม่เห็นก็หัวขมำ เส้นทางการแข่งขันมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งแล้วก็ยังเสี่ยงต่อการหลงทางอีก แต่ Isle of man ก็ยังครองแชมป์โดยเฉพาะใน 10 ปี หลัง การสูญเสียชีวิตในการแข่ง ทิ้ง Dakar แทบไม่เห็นฝุ่นเลย

1 รอบสนามที่มีขนาด 37.7 ไมล์ หรือประมาณ 60 กิโลเมตร ปัจจุบันใช้เวลาต่ำที่สุดน้อยกว่า 20 นาที สถิติการเสียชีวิต ประมาณ 6 คน ต่อ 1 ไมล์ มันไม่มีเหตผลมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่มีอย่างแน่นอน

คนในเกาะ Isle of man ผู้เข้าแข่งขัน ทีมงาน หลายคนอินกับการแข่งขันนี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าเราจะค้นหาความคิดเห็นอย่างไรที่มีต่อการแข่งขันนี้ คนนอกเท่านั้น ที่ไม่ชอบมัน กล่าวหามัน ไม่สบอารมณ์ ไม่สบายใจ ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวมัน แต่คนใน ไม่ได้เป็นอย่างนั้น นักแข่งทุกคนทราบดีว่าความเสี่ยงคืออะไร บางคนบอกว่าเราไม่คิดไปถึงหรอกว่าเย็นนี้เราจะกินอะไร เราคิดแค่โค้งหน้าเท่านั้นเอง

บางทีเราอาจต้องเข้าถึงมากกว่านี้จึงจะเข้าใจ จึงจะเข้าใจได้มากกว่าที่คนทั่วไปเข้าใจ การมีชีวิตอยู่เพื่อได้ขี่มอเตอร์ไซค์ คือสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจ การตายไปกับมอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซค์กับความตาย ประกายตา พลังงานของคนที่เกี่ยวข้องกับ Isle of man ยังเป็นสิ่งที่คนทั่วไปต้องเรียนรู้ ใช่ฉันเข้าใจทั้งหมดพุ่มไม้ เสาไฟฟ้า แผงกั้น เหว แต่ฉันจะทำมัน ความตายไม่อาจล็อกฉันไว้ในกรงแห่งความกลัว คนที่เกี่ยวข้องกับมัน Isle of man เท่านั้น จะเข้าใจ

(ภาพจาก https://www.bennetts.co.uk/bikesocial/news-and-views/racing/isle-of-man-tt/guides/video-iom-tt-bike-classes )

© Copyright Red Motorcycle Publishing House Company limited, 2021. All rights reserved.

สงวนลิขสิทธ์โดย บริษัท สำนักพิมพ์มอเตอร์ไซค์สีแดง จำกัด